มาเรียนภาษาเอสเปอรันโต….เป็นภาษาที่สองกันเถอะ

ภาษาเอสเปรันโตใน 12 วัน

https://learn.esperanto.com/th/

มาเรียนภาษาเอสเปอรันโต….เป็นภาษาที่สองกันเถอะ
เพื่อร่วมกันสร้างให้เป็นภาษากลาง…ภาษาสากล..ใช้กันทั่วโลก
โดย นายณรงค์ชัย คำภูมี
คิดว่าทุกคนที่อ่านหัวข้อเรื่องนี้แล้วจะรู้สึกเหมือนกันคือ…งง “ภาษาเอสเปอรันโต” มันคืออะไร? มีความเป็นมาอย่างไร จำเป็นอะไรที่จะต้องเรียน ใครเป็นเจ้าของภาษานี้ และที่สำคัญก็คือ ทำไมเราจึงไม่เคยรู้จักมาก่อน???

ผมเองก็เพิ่งจะได้รับรู้ว่ามีภาษานี้ในโลก เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2548 นี้เอง เมื่อครั้งได้รู้จักกับคุณ Mr. Zelimir Pehar กับคุณณัฐรุจา พีฮาร์ สองสามีภรรยา ที่จังหวัดขอนแก่น ขณะที่ทั้งสองท่านจะออกเดินทางไปนอกราชอาณาจักรไทย ณ กำแพงนครเวียงจันทน์ เพื่อขอรับการตรวจลงตราเข้าประเทศไทยและสามารถอยู่ต่อในราชอาณาจักรไปอีก ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยว่าคุณเซลีเมียร์จะไม่ได้รับความสะดวกหลาย ๆ ประการ ผมจึงอาสาร่วมเดินทางไปด้วยในฐานะที่เป็นมัคคุเทศก์ (ต่างประเทศ) สังกัดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเป็นข้าราชการบำนาญสายการต่างประเทศด้วย จึงอาจจะเป็นประโยชน์ได้บ้าง

คุณเซลีเมียร์ ได้มอบเอกสารซึ่งเป็นปริ้นเอาท์จากอินเตอร์เนท เป็นภาษาอังกฤษซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับภาษาเอสเปอรันโต มีความยาวเกือบ 60 หน้า และบอกให้ผมลองอ่านและศึกษาดู จึงได้เรียนรู้ว่าภาษาเอสเปอรันโต เป็นภาษาสากลที่มีกลุ่มผู้คนแถบประเทศที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษใช้พูดสื่อความกัน มีผู้คนที่ใช้อยู่หลาย ๆ ล้านคน ใช้เพื่อการสื่อความ กระชับมิตร เรียนรู้วัฒนธรรม การเดินทางท่องเที่ยว ธุรกิจการงานอาชีพ การติดตามข่าวสารบ้านเมือง และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสมัยใหม่

สิ่งที่น่าทึ่งและชื่นชมเกี่ยวกับภาษานี้ หากจะกล่าวอย่างไม่มีอคติว่าเป็นภาษากลาง จะถูกต้องที่สุดและควรจะให้เป็นภาษาสากล (International Language) ที่แท้จริง เพราะว่าภาษาทุกภาษาเป็นภาษาที่มีการประดิษฐ์ขึ้นเอง โดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเพื่อประโยชน์ในการสื่อสารในกลุ่มชนนั้น ๆ เช่น พระเจ้ารามคำแหงมหาราชที่ทรงประดิษฐ์อักษรไทย และมีใช้เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น

ภาษาเอสเปอรันโต ก็เป็นเช่นเดียวกัน ประดิษฐ์ และนำมาใช้สื่อสารกัน โดยนักฟิสิกส์ชาวโปแลนด์ ดร.ลู้ดวิก ล. ซาเมนฮอฟ (Dr. Ludwig L. Zamenhof) ได้ตีพิมพ์และเผยแพร่ในปี ค.ศ. 1887 นับแต่นั้นเป็นต้นมาภาษาเอสเปอรันโต ได้รับการยอมรับ และเพิ่มจำนวนผู้เรียนรู้และใช้ภาษามากขึ้นเรื่อย ๆ แต่อย่างไรก็ตาม ภาษาเอสเปอรันโต ได้ถูกขจัดให้เป็นภาษาไม่พึงประสงค์ในระยะหนึ่ง เนื่องจากช่วงเวลานั้น โลกได้แบ่งและมีการแก่งแย่งกันในการใช้ภาษาที่จะให้เป็นกลางที่สุด กลุ่มประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา ได้รับการยอมรับมากในการใช้ภาษาอังกฤษ ดังนั้น ค่ายที่ใช้ภาษาเอสเปอรันโต จึงถูกตราให้เป็นภาษาต้องห้าม และไม่ได้รับการยอมรับโดยสิ้นเชิง

นับเวลาในปัจจุบันนี้ ภาษาเอสเปอรันโต ได้มีการยอมรับกันทั่วทุกภูมิภาคของโลก ผงาดขึ้นมาโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้คนหลาย ๆ ประเทศและนับวันจะเป็นที่เรียนรู้และใช้กันอย่างแพร่หลาย การประชุมสากลหลาย ๆ ครั้งโดยใช้ภาษาเอสเปอรันโตเป็นภาษาหลักจัดให้มีขึ้นประจำทุก ๆ ปี นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1905 เป็นต้นมาโดยใช้ชื่อว่า “การประชุมสภาโลกเอสเปอรันโต” (the Esperanto World Congress) โดยมีการเปลี่ยนแปลงประเทศที่จัดทุกปี ๆ ไป ครั้งล่าสุดได้มีการจัดประชุมในปี ค.ศ. 2004 ที่นครปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน และในปี 2005 จะจัดขึ้นที่เมือง Vilnius ประเทศ Lithuania นอกจากนั้น หนังสือ วารสาร มีการจัดพิมพ์จำนวนเป็นหลาย ๆ พันเล่ม ตามความต้องการของสาธารณชนทั่วโลก บริษัทข้ามชาติหลาย ๆ แห่งใช้ภาษาเอสเปอรันโตในการโฆษณา โรงแรม ภัตตาคาร รีสอร์ท ต่างแข่งขันเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ใช้ภาษาเอสเปอรันโต ฯลฯ

ภาษาเอสเปอรันโต ช่วยแก้ไขปัญหาการติดต่อสื่อสารระหว่างกันทั่วโลก สามารถเรียนได้ทางอินเตอร์เนท ทางไปรษณีย์ ใช้หนังสือเรียนด้วยตนเอง หรือเข้าศึกษาในโรงเรียนที่จัดสอนได้ องค์การเอสเปอรันโต (Esperanto Organization) ได้จัดทำนามสงเคราะห์ (Directory) ฉบับภาษาอังกฤษเพื่อแจ้งให้ชาวโลกทั้งหลายได้ทราบว่ามีกลุ่มผู้ใช้ภาษาเอสเปอรันโตในแถบกลุ่มประเทศใดบ้าง โดยเน้นให้ผู้ประสงค์จะเรียนรู้ภาษานี้สามารถศึกษาเองเพิ่มเติมโดยใช้โอมเพจ WWW.esperanto.org

ดังนั้น ถ้าหากจะร่วมมือกันอย่างจริงจังโดยคำนึงถึงความเป็นจริงในการดำเนินชีวิตประจำวันแล้ว หากจะมีการเรียนรู้ภาษาที่สองของตนในทุก ๆ ประเทศในโลกนี้ ภาษาเอสเปอรันโต จะเป็นภาษาที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากไม่ได้เป็นภาษาของประเทศหนึ่งประเทศใดโดยเฉพาะ ไม่มีเจ้าของที่แท้จริง เป็นภาษาที่ควรได้รับการยอมรับเป็นอย่างยิ่ง เพราะ…..

1. ง่ายต่อการเรียนรู้และเข้าใจ เป็นภาษาเชิงเดี่ยว ยืดหยุ่นได้ รากศัพท์ คำศัพท์ เป็นภาษาสากลง่ายต่อการประยุกต์ใช้อย่างคล่องแคล่วกว่าภาษาอื่นใดถึง 10 เท่า การเรียนใช้เวลาเพียงเสี้ยวเดียวเทียบกับที่ต้องใช้เวลาเรียนภาษาเกิดของตัวเองด้วยซ้ำไป การสะกดคำก็แสนจะง่าย ทุกพยัญชนะมีเสียงเดี่ยวตรง ๆ สละที่ใช้ก็มีไม่มาก ออกเสียงง่าย ไม่ยุ่งยาก ไวยากรณ์หรือหลักการใช้ภาษามีเพียง 16 ข้อเท่านั้น
2. เป็นกลาง ภาษานี้มิใช่ส่วนใดส่วนหนึ่งของประเทศใดในโลก ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ไม่เป็นสมบัติของชนชาติใด กลุ่มเชื้อชาติ ชนชั้นหรือศาสนาใด เป็นสมบัติของทุก ๆ คน ไม่มีการเมืองหรือประวัติอันมีผลต่อการไม่ยอมรับใด ๆ ทุก ๆ คนที่ใช้ภาษาเอสเปอรันโต ต่างมีความเท่าเทียมกัน ทัดเทียมกัน ได้รับการยอมรับและให้ความเสมอภาคกันทั่วหน้า

3. ใช้กระชับสัมพันธภาพ ผูกพันความเป็นมนุษย์ในประชาคมโลก ผู้คนในโลกปัจจุบันอยู่ในภาวะโลกไร้พรหมแดน การจะไปมาหาสู่กันและกัน สามารถกระทำได้ในพริบตา ในวัน ๆ หนึ่ง บุคคลคนหนึ่งหรือหลาย ๆ กลุ่ม สามารถเดินทางจากประเทศหนึ่งไปยังหลาย ๆ ประเทศได้ ภาษาเอสเปอรันโต จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ในการสื่อสาร การนัดหมาย การโต้ตอบ การจัดประชุมเชิงวิชาการ การจัดแสดง การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ศิลปวัฒนธรรม การสาธิต การอภิปราย การดำเนินธุรกิจร่วมกัน หรือร่วมลงทุน การจัดรายการท่องเที่ยว ที่พักอาศัย การโรงแรม และการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษา การอาชีพ และระดับอุดมศึกษา ฯ ทั้งนี้ สิ่งเหล่านี้ เป็นการเสริมสร้างให้ผู้คนในโลกมีความเข้าใจกันและกัน สามารถเสริมสร้างสัมพันธภาพ ความเข้าอกเข้าใจกันดี ขจัดสิ้นความบาดหมาง สร้างความสันติสุขและมั่นคงให้แก่ประชาคมโลกให้ผาสุกยิ่ง ๆ ขึ้นไป

ถึงตรงนี้…..ผมใคร่จะขอเรียนและเชิญชวนทุก ๆ ท่านที่ได้เข้ามาอ่านข้อความนี้ ขอได้โปรดให้ความสนใจ และร่วมกันเผยแพร่แนวคิดใหม่ เพื่อสร้างอนาคตโลกให้เกิดความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ นั่นคือ ร่วมมือกันเรียนรู้ภาษาเอสเปอรันโต ส่งเสริมให้บุตรหลานเรียนรู้ภาษาเอสเปอรันโต เพื่อเตรียมพร้อมในยุคโลกไร้พรหมแดน……สลัดคราบของความเป็นทาสทางภาษา…..หันมาสร้างภาษาสากลให้เป็นที่ยอมรับ เพื่อร่วมกันสร้างสันติสุขให้บังเกิดแก่มวลมนุษยชาติ มีความเข้าอกเข้าใจกัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมความเป็นอยู่ซึ่งกันและกัน ร่วมกันเกลี่ยและเฉลี่ยให้เกิดความสมดุล ระหว่างมวลมนุษยโลกด้วยกันเพื่อความผาสุกด้วยกันตลอดกาลนาน.
------------------------------------

rian ti ni kok dai http://www.lernu.net http://th.lernu.net ti ni http://chonburiwatana.com/rekta_metodo/ ti ni http://www.kurso.com.br